Pan Predator Marathon
ใครจะไปรู้ว่าวันนึงจะมีรองเท้าระดับนี้โผล่มาในตลาดแถมยังคงเป็นของแบรนด์ไทยอีกด้วย รองเท้าวิ่งระดับที่มืออาชีพใช้กันจริงๆ ในราคาไม่ถึง 2,500 บาท…ฟังแล้วก็ยังไม่ค่อยเชื่อหูตัวเองว่าราคาแค่นี้จะได้รองเท้าวิ่งที่ดีจริงมั้ยเนี่ย? ถ้าอยากรู้ว่าเราลองมาแล้วเป็นยังไงบ้าง ติดตามกันได้เลยฮะ
Overall : Pan Predator Marathon
ด้วยองค์ประกอบของตัวรองเท้า เบา, หน้าผ้าบาง, ยืดหยุ่นดี และช่วงพื้นกลางเท้าเว้าตรงกลาง เราว่าคู่นี้ค่อนไปอยู่ในประเภทของรองเท้าที่ ”ใช้แข่ง” มากกว่า “ใช้ซ้อม” หลายๆคนอาจจะเปรียบเทียบรุ่นนี้กับ Asics Gel Tarther ที่เป็นรองเท้าแข่งเช่นกันแต่ทาง Pan ก็แย๊บๆมาว่ารุ่นนี้จะคล้ายๆกับ Asics Gel Skysensor ที่มีซัพพอร์ทมากกว่า แต่โดยรวมแล้ว หลายๆคนที่ใช้คู่นี้ก็บอกกันว่าสามารถใช้ในระยะไกลได้จนถึง Full Marathon เลย
Upper
หน้าผ้าเป็นส่วนผสมของผ้าตาข่าว ผ้าสักหลาดและหนังแก้ว ใช้วัสดุที่เรียบง่ายจริงๆสำหรับรองเท้าวิ่งสมัยนี้เรามักจะเห็นพลาสติกหรือหนังกันซะส่วนใหญ่ ซึ่งเราว่าส่วนผสมนี้ดีต่อการเป็นรองเท้าแข่ง ไม่ต้องมีอะไรเยอะเกินไป ยังทำให้น้ำหนักเบา และตรงผ้าตาข่ายเป้นตาข่ายห่าง ทำให้ระบายอากาศได้ดีมาก
For Wide Foot?
เราว่าทรงรองเท้ามาแบบปกติ เราใส่ตรงไซส์แล้วยังเหลือที่ว่างรอบๆหน้าเท้าอยู่บ้าง คิดว่าถ้าคนที่หน้ากว้างจริงๆคงต้องขยับไซส์ขึ้น ยังไงขอให้ลองกันด้วยตัวเองอีกทีนะฮะ
Midsole / Outsole
พื้นกลางรองเท้าคู่นี้เป็นโฟมชิ้นเดียวยาวๆ น้ำหนักเบา ลักษณะของพื้นยังถือว่าค่อนข้างกว้างถ้าเทียบกับรองเท้าแข่งทั่วๆไปที่เราเห็น ให้ความรู้สึกเต็มเท้าดี โฟมของเค้าจะมีความเด้งนิดๆ ทั้งตอนลองใส่และตอนวิ่งจริงเราก็รู้สึกถึงการ”`ดีด”ของพื้นได้เล็กๆ ขอเทียบละกันว่าน้ำหนักเบาประมาณพื้น Lunar ของ Nike และเด้งกว่าแต่ไม่เด้งมากถึงขนาดพื้น Boost ของ Adidas ทำให้โดยรวมมันซัพพอร์ทที่โอเค พื้นนอกจะเป็นยางที่ค่อนข้างหนา ติดอยู่ตรงหน้าเท้าและส้นเท้า อันนี้
Running in them
เราใส่วิ่งแล้วไม่รู้สึกหวือหวาเลย แต่พอใช้ไปเรื่อยๆแล้วเริ่มรู้สึกถึงความเป็นรองเท้าแข่ง มันบางและซัพพอร์ทน้อยกว่าคู่อื่นๆที่เรามีจริงๆ อย่างนึงที่ชัดมากคือส่วนที่แตะพื้นจะเป้นแค่ปลายเท้าและส้นเท้าเท่านั้น ไม่รู้สึกเลยว่าลงกลางเท้าได้สะดวก พอตอนวิ่งจริงๆเลยจะต้องลงปลายเท้าซะส่วนใหญ่ พอวิ่งด้วยปลายเท้ามันก็เลยต้องทำให้เราวิ่งเร็วขึ้นโดยอัตโนมัติ ส้นเท้าจะหนานิดนึงเพราะฉะนั้นถ้าเราสับเท้าช้าก็จะรู้สึกว่าส้นกำลังจะแตะพื้นแล้วก็ต้องรีบยกเท้าทันทีก็ยิ่งทำให้ต้องวิ่งเร็วกกว่าปกติอีก เอาเป็นว่าใส่คู่นี้แล้วเหนื่อยจริงๆ แต่ไม่ใช่ความเหนื่อยที่รู้สึกว่า “ทำไมร่างกายเราอ่อนแอขนาดนี้ ไม่ไหวจริงๆ” กลับนึกภาพตัวเองเป็น Mo Farah ที่พึ่งจะเข้าเส้นชัย “แหมผมนี่วิ่งเต็มสปีดมาจนจบเลยเชียวนะครับ” อะไรประมาณนั้น 555
หน้าผ้าเราว่าไม่มีอะไรมาก ซัพพอร์ทเพียงพอ เวลาผูกเชือกแน่นๆแล้วก็ไม่มีปัญหาอะไรและยังทีช่องว่างเหลือตรงหน้าเท้านิดหน่อย เผื่อไว้ให้เท้าขยายได้ถ้าวิ่งยาวๆ ที่ชอบจริงๆคือเรื่องระบายอากาศและความที่ไม่มีองค์ประกอบอะไรเยอะแยะที่จะทำให้รองเท้าเทอะทะเกินจำเป็น เราผ่านคู่นี้มาแล้วไม่ต่ำกว่า 70 กิโลเมตรแต่พื้นก็ยังไม่มีรอยสึกเลย และก็ยังไม่รู้สึกถึงโฟมยวบด้วยฮะ อันนี้ประทับใจจริงๆว่าพื้นยางรุ่นนี้ถือว่าแข็งแรงที่สุดคู่นึงเท่าที่เคยเจอมาเลย
Spots To Improve
- วัสดุบุด้านในยังเป็นวัสดุทั่วไปมากๆ มันหนาและกระด้างไปนิดนึง บางวันเราใส่ถุงเท้าข้อต่ำมาหรือบางทีที่มือจับรองเท้าเพื่อสวมเท้าเข้าไปยังโดนเสียดสีบ้าง แสบๆคันๆบ้างฮะ
- พื้นรองด้านในค่อนข้างลื่น ตอนแรกรเาคิดว่าเป็นเพราะถุงเท้ารึเปล่า แต่เปลี่ยนแล้วก็ยังคงมีปัญหานี้อยู่ คิดว่าคงเป็นเพราะผ้าแบบเดียวกับที่ใช้บุ ถ้าวัสดุตรงนี้ปรับได้คงดีขึ้นเยอะเลย จริงๆก็สามารถแก้ปัญหาได้ง่ายๆโดยการซื้อพื้นรองเท้ามาเปลี่ยนก็โอเคแล้วฮะ
- รุ่นนี้ไม่มีไซส์ครึ่ง จะนับเป็น ไซส์ 8-9-10 ไม่มี 8.5-9.5 เราเข้าใจว่าคงเป็นเพราะต้นทุนเรื่องการผลิต เนื่องจากรุ่นนี้พึ่งติดตลาดจริงๆคนเลยให้ความสนใจอย่างมาก ในยุคเริ่มต้นก็มักจะมีอะไรประมาณนี้เป็นช่องให้กับรองเท้าสามารถพัฒนาต่อได้ จริงๆเรื่องความพอดีของรองเท้าวิ่ง ส่วนตัวเราค่อนข้างซีเรียสแต่คู่นี้โอเคเพราะมีไซส์เราพอดี แนะนำว่าใครใส่ไม่พอดีอาจจะใช้วิธีซื้อให้ใหญ่หน่อยและใส่พื้นรองยี่ห้อที่หนาๆขึ้นอีกนิดและผูกเชือกจนถึงรูสุดท้าย (Runner’s Loop) ก็น่าจะช่วยได้ฮะ
เราเห็นอนาคตที่ดีของแบรนด์นี้เลยฮะ รองเท้าคุณภาพนี้กับราคาที่จับต้องได้ง่ายกว่าถือว่าเป้นตัวเลือกที่คุ้มและควรลองจริงๆ แว่วๆมาว่าทาง Pan กำลังพัฒนารุ่นที่ใช้ซ้อมอยู่ด้วย น่าจะใส่ได้ง่ายและมีคนสนใจมากขึ้นกว่าเดิมอีกแน่ๆ ใครยังไม่เคยลองไปหาได้ตามช็อปหรือ Online Shop ของ Pan หรือใน Facebook โดยตรง ราคาตอนนี้ลดอยู่จาก 2,290 เหลือ 1,832 บาทฮะ ใครไปลองมาแล้วมาบอกเราด้วย
ขอบคุณทาง Pan ที่ส่งรองเท้ามาให้เราลองนะฮะ ยังไงก็แล้วแต่ เรายังคงรีวิวแบบตรงไปตรงมาอยู่เหมือนเดิมเพื่อให้ข้อมูลที่ถูกต้องจริงๆสำหรับผู้อ่านฮะ