Tom Sachs MARSYARD 2.0
ไนกี้ ร่วมกับทอม แซกซ์ ศิลปินชื่อดังร่วมกันนำเสนอรองเท้าไนกี้คราฟท์ มาร์ส ยาร์ด เมื่อเดือนพฤษภาคมปี 2012 โดยรองเท้ารุ่นนี้เป็นรองเท้าที่แซกซ์ได้รับอิทธิพลจากการการทำงานร่วมกับนักวิทยาศาสตร์ขององค์การนาซ่า โดยเขาตั้งใจให้รองเท้ารุ่นนี้รองเท้าสำหรับนักบินอวกาศและเป็นส่วนหนึ่งของนิทรรศการ สเปซโปรแกรม 2.0: มาร์ส เอ็กซิบิชั่น (SPACE PROGRAM 2.0: Mars exhibition) ซึ่งปัจจุบันนิทรรศการนี้ตั้งอยู่ที่อาคารปาร์กอเวนิวอาร์เมอรี่ (Park Avenue Armory) ในนครนิวยอร์ก และในปีนี้ รองเท้าไนกี้คราฟท์ มาร์ส ยาร์ดรุ่นที่ 2 จะออกวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ รองเท้ารุ่นใหม่นี้ผลิตจากวัสดุใหม่ที่แซกซ์ศึกษาทดลองกับรองเท้ารุ่นดั้งเดิม ซึ่งเขาได้รับผลลัพธ์ที่น่าประหลาดใจ
“รองเท้ารุ่นดั้งเดิมผ่านการทดสอบความทนทานของพื้นผิวต่อรอยขูดขีด การทดสอบความแข็งแรง การบิดงอ มันผ่านการทดสอบรองเท้าตามมาตรฐานทุกอย่าง แต่เมื่อสวมใส่จริง ความรู้สึกที่ได้รับกลับไม่น่าประทับใจ” แซกซ์เล่า “ความรู้สึกนี้จะไม่มีทางสัมผัสได้เลยจนกว่าเราจะใส่รองเท้าคู่นั้นจริงๆ และนั่นทำให้เรารู้สึกว่าเราผลิตรองเท้าโดยใช้วัสดุใหม่ล่าสุด เราควรจะทำดีกว่านี้แม้ว่าเส้นใยสังเคราะห์เวกทราน (Vectran) จะมีน้ำหนักเบาและแข็งแรงกว่าเส้นใยโพลีเอสเตอร์ แต่เมื่อใช้งานในระยะเวลานาน เส้นใยเวกทรานอาจจะอ่อนตัวลงจนทำให้รองเท้าเสื่อมคุณภาพก่อนเวลาอันควร
แซกซ์และนักออกแบบของไนกี้ใช้เวลากว่า 5 ปีทดสอบรองเท้ารองเท้าไนกี้คราฟท์ มาร์ส ยาร์ด ด้วยการสวมใส่ในชีวิตประจำวัน ตลอดการทดลอง แซกซ์และนักออกแบบของไนกี้ค้นพบสิ่งที่น่าสนใจหลายอย่างที่ไม่อาจค้นพบได้จากกระบวนการออกแบบ และผลการศึกษาเหล่านั้นมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งต่อการพัฒนารองเท้าไนกี้คราฟท์ มาร์ส ยาร์ด 2.0 ยิ่งไปกว่านี้ รองเท้ารุ่นนี้ยังเป็นรองเท้าที่ผสานปรัชญาการออกแบบของทั้งแซกซ์และไนกี้ นั่นคือการใช้งานออกแบบเพื่อพัฒนาศักยภาพของมนุษย์อย่างไม่หยุดยั้ง ไว้อย่างลงตัว
ตลอดระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา แซกซ์พบว่ารองเท้าไนกี้คราฟท์ มาร์ส ยาร์ดนั้นมีข้อจุดอ่อนหลายประการ เขาจึงทำงานร่วมกับนักออกแบบของไนกี้เพื่อพัฒนารองเท้ารุ่นใหม่ให้มีความทนทานยิ่งขึ้น หน้ารองเท้าของรองเท้าไนกี้คราฟท์ มาร์ส ยาร์ด 2.0 นั้นเปลี่ยนวัสดุจากเส้นใยเวกทรานเป็นโพลีเอสเตอร์ที่ถักโดยใช้กระบวนการแบบทริคอต (tricot) เพื่อยึดเส้นใยโพลีเอสเตอร์แต่ละเส้นให้คงที่ และมีผิวสัมผัสเหมือนตาข่าย โครงสร้างนี้ช่วยเสริมการระบายอากาศให้ดีขึ้นเนื่องจากมีจุดที่ระบายอากาศไม่ดีน้อยลง ความสวยงามของรองเท้าอาจถูกลดทอนแต่ก็แทนที่ด้วยความเรียบง่ายแทน แถบช่วยในการสวมใส่สีแดงนั้นแข็งแรงขึ้นด้วยแนวคิดการเดินด้ายเป็นรูปกากบาท นอกจากนี้ ลวดลายพื้นรองเท้าแบบเดิมที่ออกแบบเพื่อใช้บนพื้นผิวที่เป็นดินทรายอย่างดาวอังคารนั้นยังได้รับการปรับปรุงใหม่ให้เหมาะสมกับการใส่ในเมืองดียิ่งขึ้น มากไปกว่านั้น รองเท้าไนกี้คราฟท์ มาร์ส ยาร์ด 2.0 ยังมีพื้นรองด้านในรองเท้าถึง 2 แบบให้เลือก คือแบบที่ผลิตจากผ้าตาข่ายและแบบที่ผลิตจากไม้ก๊อก (ซึ่งเหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ชอบสวมใส่รองเท้าผ้าใบโดยไม่ใส่ถุงเท้า)
พื้นรองด้านในรองเท้าแบบผ้าตาข่าย (ซ้าย) มีการวาดภาพลวดลายเชือกไว้บนพื้น ส่วนพื้นรองด้านในรองเท้าแบบที่ผลิตจากไม้ก๊อกนั้นมีรูปวาดที่สื่อถึงวัตถุในอวกาศ
รองเท้ารุ่นใหม่นี้คืออีกหนึ่งตัวอย่างของการปรับปรุงผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นสิ่งที่แซกซ์กระทำมาโดยตลอด และในความเป็นจริงแล้ว เขามักจะคิดเสมอว่างานของเขาเป็นงานที่ไม่มีวันสิ้นสุด ปรัชญาการทำงานนี้เป็นเสมือนหลักปฏิบัติในการทำงานของแซกซ์ เขาไม่เคยซ่อนรอยต่อ ฝีเข็ม หรือเส้นด้ายต่างๆ ในงานสร้างสรรค์ของเขาเลย เพราะเขาต้องการสื่อให้ทุกคนทราบถึงความพยายามในการสร้างสรรค์ผลงาน ทั้งในเชิงรูปธรรมและนามธรรม (ก่อนจะเป็นนักออกแบบ แซกซ์เป็นประติมากรมาก่อน)
แซกซ์เป็นนักออกแบบที่สนใจศึกษาวัสดุต่างๆ ในชีวิตประจำวัน และความสนใจของเขาปรากฏอยู่ในรองเท้าไนกี้คราฟท์ มาร์ส ยาร์ด 2.0 และรุ่นก่อนหน้าด้วย วัสดุค่างๆ ที่แซกซ์เลือกใช้นั้นเป็นวัสดุแบบเดิม ไม่มีการย้อมสีแต่อย่างใด และแน่นอนว่าแซกซืใส่ดอกไม้ (ลายเซ็นในงานสร้างสรรค์ของเขา) ไว้ทั้งที่แถบช่วยในการสวมใส่ด้านส้นเท้าและที่ตราสัญลักษณ์ของไนกี้
“ผมชื่นชมความไม่สมบูรณ์แบบต่างๆ อย่างการใช้ส่วนกลางพื้นรองเท้าที่ผลิตจากโพลียูรีเธนที่ไม่ผ่านการปรบแต่งใดๆ เลยเป้นสิ่งสะท้อนถึงการใช้งานอย่างยาวนาน รองเท้ารุ่นนี้เป็นสื่อที่สะท้องถึงประสบการณ์อย่างยาวนาน แม้แต่ส่วนลิ้นรองเท้าก็มีการทำรอยแตกให้ดูเก่า” แซกซ์เล่า “หลายๆ คนแสดงรอยแผลเป็นอย่างภาคภูมิใจ นั่นจึงเป็นเหตุผลที่เราใช้วัสดุต่างๆ ตามสภาพธรรมชาติของมัน เพราะเราใช้วัสดุเหล่านี้เป็นเครื่องบอกเล่าเรื่องราว หลายๆ คนทำให้รองเท้าสกปรกไวๆ เพื่อบอกว่า ‘ฉันใส่รองเท้าของฉันจริงๆ ฉันใช้ชีวิต และนี่คือหลักฐานการใช้ชีวิตของฉัน’”
เพื่อสะท้อนข้อเท็จจริงนี้อย่างสมบูรณ์แบบ รองเท้าไนกี้คราฟท์ มาร์ส ยาร์ด 2.0 จะออกวางจำหน่ายพร้อมกับกิจกรรมพิเศษชื่อ “แคมป์อวกาศ – Space Camp” ที่ไนกี้กับทอม แซกซ์ร่วมกันนำเสนอสู่แฟนๆ โดยกิจกรรมพิเศษนี้เป็นการจำลองกระบวนการทำงานของแซกซ์ในสตูดิโอ
ทอม แซกซ์ เริ่มต้นเช้าวันทำงานในสตูดิโอของเขาด้วยกาแฟขมๆ และตามด้วยการออกกำลังกาย เช่นการดันพื้นหรือการยกเวทที่ช่วยให้ร่างกายของเขาแข็งแรง หลังจากนั้น แซกซ์จะทำกิจกรรมอื่นๆ เพื่อช่วยฝึกจิตใจ เช่นการผูกเงื่อน หรือการวาดเส้นตรง กิจกรรมเหล่านี้ช่วยให้จิตใจของแซกซ์สงบและเตรียมตัวเขาให้พร้อมกับงานสร้างสรรค์ที่เขากำลังจะทำต่อไป โดยงานของสมาชิกคนอื่นๆ ในสตูดิโอนั้นคือการสร้างสรรค์งานประติมากรรม
“ก่อนจะทำงาน เราให้ทุกคนฝึกสมาธิและออกกำลังกายก่อนเพราะผมเห็นว่าเพื่อนร่วมงานของคนหลายคนเริ่มมีอายุมาก และพวกเขาเริ่มมีอาการป่วยหรือเหนื่อยล้าอย่างที่ผมเคยเป็นมาก่อน และสำหรับเพื่อนร่วมงานที่ยังมีอายุไม่มาก ผมก็หวังให้พวกเขามีสุขภาพกายและสุขภาพจิตที่ดี หรือพูดสั้นๆ คือผมไม่อยากให้พวกเขามีอาการปวดหลังเรื้อรัง” แซกซ์ ซึ่งยึดหลักการออกกำลังกาย 5 ท่าของแพต มานอคเชีย (Pat Manocchia) อันประกอบไปด้วยท่ายกเวท สลับย่อเข่า โหนบาร์ ดันพื้น และซิตอัพ ตั้งแต่ปี 2005
“กิจกรรมแคมป์อวกาศนี้ช่วยให้เราร่างกายแข็งแรงและมีพื้นฐานที่ดีสำหรับการตัดสินใจทำสิ่งต่างๆ เราจะทำกิจกรรมนี้ 3 ครั้งต่อสัปดาห์”
กิจกรรมแคมป์อวกาศของไนกี้และทอม แซกซ์นำสิ่งที่ทอม แซกซ์ทำในสตูดิโอเพื่อฝึกร่างกายและจิตใจมาให้ผู้สนใจได้สัมผัส กิจกรรมเหล่านี้จะทดสอบทั้งร่างกาย จิตใจและบุคลิก รวมทั้งประสบการณ์ที่แต่ละคนจะหล่อหลอมหรือปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้
กิจกรรมแคมป์อวกาศของไนกี้และทอม แซกซ์มีความยาวครั้งละ 1 ชั่วโมง และเข้าร่วมได้ทุกเพศทุกวัย เป็นกิจกรรมที่ช่วยเสริมสร้างผู้ที่มุ่งมั่นและผู้ที่จิตวิญญาณไม่หยุดนิ่ง ทั้งนี้ ผู้ที่ซื้อรองเท้าไนกี้คราฟท์ มาร์ส ยาร์ด 2.0 สามารถเข้าร่วมกิจกรรมนี้ได้ก่อนใคร
กิจกรรมแคมป์อวกาศของไนกี้และทอม แซกซ์จะเริ่มรอบแรกที่นครนิวยอร์กในวันที่ 8 มิถุนายน ก่อนจะจัดกิจกรรมที่กรุงลอนดอนในสัปดาห์ต่อๆ ไป รายละเอียดเพิ่มเติมข้าชมได้ที่ nikecraft.com