Review : New Balance Fresh Foam Zante V.3
(ขอเดาว่า) เพราะอย่างงี้ไง รองเท้าคู่นี้ถึงได้รางวัล
ต้องบอกว่ารองเท้าคู่นี้ถ้าไม่ลองไม่รู้ ให้เทียบกับรองเท้าในตลาดสมัยนี้รุ่นที่เป็นเรือธงก็มักจะมีจุดเด่นที่ชัดเจนเช่น นิ่มมาก เบามาก ยืดหยุ่นมาก ใส่สบายมาก ที่จะแต่ละแบรนด์ปล่อยมาสู้กัน แต่ต้องเข้าใจก่อนว่านั่นคือความรู้สึกตอนที่เรา ”ลองใส่” ในร้านหรือในช็อปเท่านั้นฮะ เพราะฉะนั้นเวลาเอามาวิ่งจริงๆแล้วก็จะมีความรู้สึกอื่นๆตามมา คู่นี้ถ้าไปลองเองจะไม่ได้ประทับใจอะไรมาก ข้างบนเบาดี พื้นแน่นๆออกแนวแข็งนิดๆ หน้าตาดีนะแต่ลองใส่แล้วยังไม่หลงรัก จากที่เราใช้มาทั้ง V2 และ V3 (ราวๆ 70 กม.) เราก็เข้าใจประมาณนึงว่าทำไมคนอื่นเค้าถึงชอบกันนัก และทำไมเราถึงได้ชอบตามเค้าไปด้วย
สาระพัดประโยชน์
ที่เราเคยบอกว่าคู่นี้คุ้มมากๆ ใครจะเริ่มวิ่งให้หลับหูหลับตาไปซื้อมาเถอะ ดีแน่ๆ ก็เพราะว่ามันใช้งานได้หลากหลายมากที่สุดเท่าที่เราเคยเจอมาแล้ว ขอไล่ไปทีละอย่าง
- วิ่งช้า – ยาว : วิ่งแบบนี้ซัพพอร์ทของรองเท้าสำคัญเป็นอันดับแรกๆเลย ยกตัวอย่างคนที่เพิ่งเริ่มวิ่งแล้วอยากจะพิชิต 10k นะ เราอาจจะซ้อม 5-7k มาได้แล้ว พอลงวิ่งจริงๆอีก 3k สุดท้ายนี่มันกล้ำกลืนมาก ตรงนี้พื้นนิ่มๆหนาๆจะเริ่มไม่ใช่ปัจจัย แต่ความมั่นคงของรองเท้าต่างหากที่จะพาเราจบสวยๆ นึกภาพเรือที่ไม่โคลงเคลงฮะ นิ่งๆ ไปเรื่อยๆ จบแบบช้าแต่หน้าไม่บูดเพราะเมาคลื่น บางทีรองเท้าโฟมนิ่มเกินมันจะเหวี่ยงเหมือนเรือโคลงเคลงนั่นล่ะฮะ บางคนแพ้ทะเลลงก็เวียนหัวอาเจียนกันไปตามระเบียบ ยกอีกตัวอย่างนึงคือสมมุติไปฮาล์ฟแรก(21k) หลายๆคนจะซ้อมกันแต่ 17-19k แล้วที่เหลือไปด้นเอาวันจริง ถ้าซ้อมมาขนาดนี้อีกนิดเดียวไหวอยู่แล้ว แต่ข้อดีของ Zante ที่อยู่ในประเภทรองเท้ารับแรงกระแทกคือมันไม่หนัก บางทีเราวิ่งมาจนกิโลท้ายๆจะรู้สึกแล้วว่าบางคู่พื้นหนาๆนิ่มๆ มันเริ่มหนักเกินไปหรือผ่านจุดให้น้ำมาแต่ละจุดก็อมน้ำมาเรื่อยๆจนกลายเป็นรู้สึกว่าเราต้องแบกรองเท้าเข้าเส้นชัยแทนที่จะให้รองเท้าแบกเราแทน
- วิ่งเร็ว – ยาว : ขอแชร์ประสบการณ์ตรงจาก V2 ตอนเราใส่ไปวิ่งฮาล์ฟของ Bitec มา ก่อนหน้านั้นเวลาที่ดีที่สุด(เมื่อหนึ่งปีที่แล้ว)คือ 2 ชั่วโมงกับอีกประมาณ 8 นาที คราวนี้คึกอยากได้เวลาต่ำกว่า 2 ชม.ดู ลองเร่งเครื่องตาม Pacer ดู เหนื่อยแต่มันส์ กวดไปจนเกือบเข้าเส้นชัยแล้วแซง Pacer ไปตอนเท้า เร่งเครื่องเต็มเท้า สับเข้าเส้นไปแล้วจบ 1 ชั่วโมง 59 นาที สะใจมาก รู้สึกว่าพื้นรองเท้าแบบนี้ถึงจะหนาแต่มันเร่งขึ้นแฮะ เร่งได้ดีด้วยฮะ พื้น V3 หน้าเท้าจะแข็งกว่าส้น เพราะฉะนั้นเวลาจิกปลายเท้ามากขึ้นมันเร่งได้ ไม่หน่วงแบบ Lunar หรือ Boost อีกอย่างคือทรงพื้นที่เชิดขึ้นมามันช่วยดีดเท้าไปข้างหลังช่วยทำความเร็วอีก คาแรคเตอร์แบบนี้ในรองเท้า Cushion หายากนะ
- วิ่งเร็ว – สั้น : อย่างที่บอกไปข้างบนแล้ว ถ้าใครจะวิ่งส้นๆเน้นสปีดน่าจะต้องลองปลายเท้ากันเน้นๆ รองเท้าพื้นหนาส่วนใหญ่เวลาวิ่งเร็วๆแล้วลงปลายเท้า มันจะรู้สึกว่าส้นมันหนาๆ หน่วงๆ เกะกะ คู่นี้คงสู้รองเท้าแข่งจริงๆไม่ได้ฮะ แต่ด้วยความที่เค้าทำให้มันเพรียว ไม่เทอะทะอยู่แล้ว มันเลยเอาไปใช้วิ่งสั้นๆเร็วๆได้ดีด้วย
เป็นรองเท้าที่มีสมดุลดีมาก ไม่เล่นใหญ่แต่ฉลาด
ขอพูดถึงพื้นก่อน ความรู้สึกคล้ายๆเดิมจาก Zante V2 ฮะ ให้ความรู้สึกออกแนวแน่นๆไม่ได้ ”นิ่มนำ” ข้างหลังหนากว่าจะรู้สึกนุ่มกว่าข้างหน้าหน่อยๆ แต่กระแทกเท้าลงไปแล้วไม่สะท้าน ให้ความรู้สึกเหมือนตอนที่เราเคยใช้ Brooks Transcend คือตอนลงเท้าหนักๆ พื้น Fresh Foam จะไม่ได้มีแรงเด้งกลัวหรือนุ่มเบาอย่าง Lunar หรือ Boost แต่มันจะเป็นความรู้สึกที่เงียบมาก ลงหนักๆแล้วไม่มีเสียงตอบรับใดๆแต่ไม่เคยรู้สึกสะท้านสักนิดให้ความรู้สึกที่ปลอดภัยมาก ถ้าลองบิดๆพื้นรองเท้าดูจะเห็นว่าพอจะบิดได้บ้างแต่ไม่เยอะเท่ากับ UB หรือ LunarEpic เค้าไม่ตามเทรนด์รองเท้าที่ยืดหยุ่นมากจนซัพพอร์ทหายหมด ตรงนี้เวลาวิ่งยาวๆแล้วจะรู้สึกขอบพระคุณคนสร้างเพราะยิ่งวิ่งยาวเท่าไหร่ก็มักจะอยากได้รองเท้าที่แข็งขึ้นๆ ความหนาของพื้นรองเท้าเป็นอีกปัจจัยนึงที่น่าสังเกต รองเท้าที่พื้นบางๆจะทำให้เท้าเรารู้สึกถึงพื้นถนนได้มากกว่า เหมาะกับการจิกเท้าเพื่อทำความเร็ว แต่รองเท้าพื้นหนาจะช่วยปกป้องเท้าไม่ให้ได้รับแรงกระแทกที่มาจากพื้นถนนมากเกินไป ทีนี้เราต้องหาสมดุลของสองอย่างนี้ เราว่า Zante ค่อนไปทางรองเท้าพื้นหนาแต่ด้วยความไม่นิ่มมากแบบ Ultr Boost เน้น impact protection มากกว่าเน้นความสบาย ทำให้ข้อเสียของความหนามันถูกลืมไปได้ หน้าผ้าตรงกลางเท้าออกแบบมาให้แข็งแรงเพื่อซัพพอร์ทกลางเท้าและส้นเท้าให้เต็มที่ แต่ด้านหน้ายืดสบาย ไม่สนว่าตอนลองใส่จะรู้สบายรึเปล่าแต่เน้นว่าถ้าเอาไปใช้งานต้องดีจริงๆ ตอนลองเราอาจจะไม่รู้สึกว่าใส่สบายเท่าไหร่ แต่พอยิ่งเอาไปใส่จะรู้เองว่าแต่ละส่วนเค้าเน้นมากๆให้ใส่วิ่งได้ดีจริงๆ
หน้าตา
ช่วงปีหลังๆ NB เริ่มจับทางได้ถูกต้องและทำรองเท้าที่หน้าตาวัยรุ่นมากขึ้นๆมาเรื่อยๆ แค่เห็นตัว N เส้นบางๆก็ทำให้รองเท้าดูผอมเพรียวขึ้นเยอะ สีนี้ทำเอาเราแปลกใจเหมือนกันที่เค้าเอาวัสดุแบบแว๊บๆมาใส่ด้วย เป็นโฮโลแกรมสีม่วงๆแสบๆ หลุดไปเจอภาพความคลาสิคของ 990 ได้อย่างสิ้นเชิง ใครไม่ชอบสีแบบนี้ก็จะมีตัวเลือกสีที่คุมโทนออกมาเยอะเลยฮะ สีกรมท่า สีเทา สีดำ ยิ่งตอบโจทย์สำหรับคนที่อย่างให้รองเท้ามันใส่ง่ายขึ้นเยอะ
ราคา
4,590 บาท ในยุคนี้ถือว่าราคาดีมากฮะ แถมแบรนด์นี้เค้ายังชอบออกโปรโมชั่นมาบ่อยๆ อย่างต่ำๆก็ 10% ก็เจอเหลือ 4พันนิดๆ กับรองเท้าคุณภาพและชื่อชั้นรางวัลสามรุ่นติดแบบนี้คงหาอะไรมาเทียบเรื่องความคุ้มได้ยาก คิดแทนให้สำหรับคนที่ปีนึงจะสามารถซื้อรองเท้าได้คู่เดียว คู่นี้แหละเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ดีมากๆ เพราะวัสดุแข็งแรง ใช้งานได้หลายแบบ หน้าตาผ่าน และราคาไม่ต้องถึงกับขายไตด้วย
ข้อควรระวัง
ก่อนที่จะปิดรีวิวนี้ เราขอชี้เป้าให้ด้วยฮะว่าไม่มีอะไรเพอร์เฟคไปทั้งหมด ขอลิสต์เป็นข้อๆว่าจุดไหนที่เรายังไม่ชอบมั่ง เพื่อจะได้ช่วยให้ทุกคนตัดสินใจได้
- Arch Support : มีน้อยมาก เราแทบไม่รู้สึกเลย รองเท้าเป็น Neutral แท้ๆ เพราะฉะนั้นใครที่เป็นเท้า High Arch แล้วยังไม่ชินกับการลงน้ำหนักที่ปลายเท้าซักเท่าไหร่อาจจะต้องระวังคู่นี้อีกสักนิด เราคิดว่าถ้าไปหาพื้นรองดีๆที่ช่วยเรื่อง Arch มาใส่แทน คู่นี้จะซิ่งขึ้นเยอะเลย
- ความกระชับของหน้าผ้า : เป็นทิศทางที่สังเกตได้ตั้งแต่การเปลี่ยนแปลงของ Zante V1 มาเป็น V2 แล้วฮะ หน้าผ้าตรงหน้าเท้าบางขึ้น แล้วทำให้ทุกอย่างบาง/เบาขึ้น เรานึกออกเลยว่านักวิ่งจะต้องชอบเพราะรองเท้ามีจุดที่ “จำเป็นต้องแข็ง” แค่เท่าที่จำเป็นเท่านั้นฮะ สำหรับเราที่ยังวิ่งลงปลายเท้าไม่เก่ง บางทีเราว่าซัพพอร์ทมันยังน้อยไปหน่อย ผ้าบางไปนิด รู้สึกว่าขายังไม่ถึงขนาดนั้น อดนึกถึงตัว V1 ไม่ได้ที่ข้างหน้าจะมีส่วนที่เป็นพลาสติกให้มันแข็งขึ้นนิดนึงให้อุ่นใจ
- ไซส์ : เหมือนตัวที่แล้วคือเราต้องบวกขึ้นครึ่งไซส์ฮะ ไม่งั้นจะชนนิ้ว ทำให้พื้นที่ข้างเท้าดันหลวมขึ้นอีก ต้องใส่ถุงเท้าหนานิดนึงถึงจะพอดี ตรงนี้เราว่าคนที่ได้เปรียบคือคนหน้าเท้าบานเพราะผ้ายืด ไม่บีบฮะ
สุดท้ายขอขอบคุณ New Balance Thailand ที่ส่งรองเท้าคู่นี้มาให้เราใช้ตามคำขอของแฟนๆที่อยากอ่านรีวิว ไไม่ต้องเป็นห่วงเพราะเราเขียนตรงไปตรงมาเหมือนเดิม มีคำถามอะไรถามมาได้เลย เราจะตอบให้ตรงๆเช่นเคยฮะ ไว้เจอกันใหม่ครั้งหน้ารอดูว่าจะมี New Balance รุ่นไหนมารีวิวให้ดูกันอีกนะ
Related articles:
-
Under Armour Architech Reach
จนแล้วจนรอด ปีนี้เราก็ยังไม่ได้เห็นรองเท้า 3D Print ออกมาวางขายอย่างทั่วถึงจริงๆ ส่วนตัวเรายังคิดว่าเทคโนโลยีนี้ยังมีหลายปัจจัยที่ยังขวางไว้อยู่ ทำให้โปรเจคแบบนั้นจะเน้น “การทดลอง” ซะส่วนใหญ่ ทดลองเพื่อให้รู้จักการรับแรงกระแทก, ให้รู้ว่ารองเท้าที่เปลี่ยนโครงสร้างไปเลยจะมีผลยังไงบ้างกับคนใส่ หรือทดลองทำรองเท้าที่เหมาะกับคนคนนั้นเท่านั้น ปรับจูนรายละเอียดต่างๆ เพื่อให้ได้ผลออกมาแล้วนำไปต่อยอดสู่เทคโนโลยีอื่นๆที่นอกเหนือจาก 3D Print ด้วย และคราวนี้เราเอาผลจากการทดลองนั้นมาให้ดูฮะกับรองเท้าที่อยู่ในโปรเจค Architech เป็นกลุ่มนวัตกรรมของ…
-
The Most HYPED Running Shoes of 2017 : Altra Escalante
Altra Escalante เป็นรองเท้าวิ่งโมเดลใหม่ที่เปิดตัวได้เปรี้ยงที่สุดของปี 2017 เพราะนอกจากจะเป็นแบรนด์ที่ยังถือว่าอยู่ในกลุ่มดาวรุ่ง แต่กระโดดเข้ามาใช้ผ้าถักแบบ Knit ได้เร็วมากอย่างไม่น่าจะมีใครคิดว่าแบรนด์ลุยๆดิบๆขนาดนี้จะขอกระโดดเข้ามาร่วมวงเทคโนโลยีแห่งยุคแบบนี้ด้วย กระแสถัดมาคือการได้รางวัล Editor’s Choice จาก Runner’s World ในช่วงกลางปี ยิ่งทำเอาหลายๆคนที่ยังไม่เคยลอง คันไม้คันมือกันเป็นแถวๆ หนึ่งในนั้นก็รวมถึงเราด้วยนั่นแหละ ไม่คิดว่าสาย Zero…
-
Puma TSUGI Shinsei
เกิดใหม่-อีกครั้ง เป็นการตั้งชื่อรองเท้ารุ่นใหม่ล่าสุดของแบรนด์ประวัติยาวนานอย่าง PUMA ให้เข้าใจว่า”ใหม่”จริงๆ TSUGI SHINSEI มาจากภาษาญี่ปุ่นสองคำคือ Tsugi แปลว่า ต่อไป(Next) และ Shinsei แปลว่า เกิดใหม่(Rebirth) เป็นการเปิดตัวที่สื่อความหมายชัดเจนในการกลับมาสู่ตลาดเทรนด์ใหม่ในปัจจุบัน ทีมดีไซน์ของ Puma จากเยอรมันที่ชอบเดินทางกันเป็นทุนเดิม แถมยังบอกว่าในหลายๆประเทศที่เค้าไปกัน ประเทศญี่ปุ่นมักจะเป็นที่ๆเค้าได้ไอเดียที่ชอบมาเสมอๆ…
