Native Monaco Low
อย่างที่เกริ่นไว้วันก่อน วันนี้ขอบคุณ Native Thailand ก่อนเลยฮะที่ส่งรองเท้าคู่นี้มาให้เรา เราไม่รู้เค้าคิดยังไง แต่เราอินกับรองเท้าแบบนี้พอสมควร รองเท้าที่มีความใหม่และแปลกนิดๆ เน้นการใช้งานให้ใส่ได้สบายเวลาซื้อจะได้แน่ใจว่าใส่เดินทั้งวันแล้วยังไหว
จากรองเท้าที่ใช้พลาสติก EVA ทั้งชิ้น ฮิตมากจริงๆตอนช่วงน้ำท่วม(นี่เปล่ากวน แต่มันเป็นแบบนั้นจริงๆ 55) เพราะว่าทนน้ำและระบายออกได้ดีมากๆ อีกอย่างคือรองเท้าเป็นโฟมทั้งหมด เลยใส่สบาย+ทนอีก
มาถึงตอนนี้หน้าตาเปลี่ยนไปเยอะมากจริงๆ ลองสังเกตดูตัวนี้ สังเกตดูว่าหน้าผ้าแบบนี้เราแทบไม่เคยเจอในรองเท้าผ้าใบเลย มันเป็นไมโครไฟเบอร์ที่ไล่ความชื้นออกไปได้ดี รองเท้าจะได้ไม่อับและไม่มีเชื้อโรคสะสมอยู่ในนั้น
หน้าตาของคู่นี้เหมือนจะคุ้นๆแต่ก็แปลกๆนิดนึงเพราะว่าทรงจะอวบนิดๆ เป็นคาแรคเตอร์ที่รองเท้าทรงคล้ายๆกันจะไม่ค่อยมีเนื่องจากเน้นความเนี๊ยบสุดๆ แต่ใครรู้จักแบรนด์นี้จะรู้ว่าเอกลักษณ์จริงๆมันห่างไกลจากคำว่าเนี๊ยบอยู่มากเพราะเค้าจะเน้นความสนุกและการได้ออกไปเดิน ไปเที่ยวเยอะๆ ไม่เชื่อไปดูพวกวีดีโอของแบรนด์ มาแนวซนๆตลอดเสมอต้นเสมอปลายจริงๆ
มาดูรายละเอียดแต่ละจุดดีกว่า นอกจากหน้าตาของรองเท้าแล้ว เราว่าการเลือกวัสดุหรือการผลิตให้ออกมาเป็นรองเท้าคู่นี้มันแปลกและน่าสนใจทีเดียว
ให้ดูทรงก่อน มันจะกว้างๆหน่อย ไม่ได้เรียบเนี๊ยบเหมือนคุณชาย หน้าเท้าจะกว้างนิดๆ ที่ชัดกว่านั้นคือพื้นรองเท้าจะกว้างจริงๆ ตรงนี้มันจะช่วยให้พื้นรับกับเท้าได้เต็มๆ ใส่เดินนานๆมันจะช่วยให้ไม่เมื่อยเท้าง่าย
ป้ายที่แนบมาด้วย อันนี้ไม่เคยเห็นเลย ป้ายที่เขียนว่า Color Transfer เหมือนบอกมากลายๆว่า “ใส่ไปแล้วสีจะเปลี่ยนนะ” คือรองเท้าสีอ่อนแบบนี้เนี่ย ใส่ไปเรื่อยๆมันจะคล้ำขึ้นตามการใช้งานแน่ๆ รับได้อยู่แล้วตั้งแต่ตัดสินใจเอามา แต่นี่เหมือนการแปะป้ายไว้ตัวใหญ่ๆว่า เราเตือนคุณแล้ว 555
ลองดูวัสดุใกล้ๆ Microfiber มันจะคล้ายๆรองเท้าหนังกลับนิดๆ มีปั๊มลายจุด (คาดว่าเพื่อความสวยงาม หาใช้เกี่ยวกับการทำงานไม่) เนียนนิ่มมือจริงๆ ที่สำคัญคือบางและเบา วัสดุแบบนี้ข้อดีคือใส่แล้วหายห่วงเรื่องรองเท้ากัด
อีกดีเทลนึงที่ดูรู้ว่า”ตั้งใจ”ให้รูร้อยเชือกเป็นรูแบนๆอย่างงี้เป็นการสร้างเอกลักษณ์อย่างนึงให้กับรองเท้า คิดไปคิดมาก็ดีเหมือนกัน รู้แบบนี้จะทำให้เชือกรองเท้าไม่บิดเป็นเกลียวหลังจากใส่หลายๆครั้ง ใครเป็นเหมือนเราบ้างที่ถ้าเชือกมันบิดๆ ต้องคอยมานั่งแก้บ่อยๆ เห็นแล้วมันขัดตา
ตรงลิ้นรองเท้ากับด้านหลังเป็นพลาสติกแปะอยู่ คาดว่าเอาไว้เวลาที่เราถอดเข้า-ออก มือจะจับตรงจุดนี้บ่อยๆ ถ้า พลาสติกจะช่วยให้ทนมือได้มากขึ้นแล้วก็ไม่เป็นรอยง่ายด้วย ที่สำคัญคือมันบางพอตัว ไม่ทำให้รองเท้าดูเทอะทะเกิน
มาถึงพระเอกของคู่นี้ ข้างในสีฟ้านี่เป็นพื้นแบบถอดได้ พอถอดออกมาแล้วมันเหมือนกึ่งโฟม-เจล นิ่มๆแน่นๆ ใส่แล้วนิ่มเท้าดีเลยล่ะ ไม่เหมือนรองเท้าคู่อื่นที่จะใช้โฟมบางๆธรรมดา อันนี้เป็นจุดหลักที่ทำให้รองเท้าใส่สบายเลยนะ พื้นรองค่อนข้างหนาเลย เอาออกมาบีบๆดูมันดึ๋งๆดีเหมือนกัน แถมข้างใต้พื้นมีปั๊มรูปเท้าชูสองนิ้ว ดีเทลหลบซ่อนขนาดนี้ยังอุตส่าห์ใส่มาด้วย กวนโอ๊ยดีจริงๆ
ใครหารองเท้าลำลองที่ใส่ง่ายๆ ใช้ได้กับวันธรรมดาทั่วไป อันนี้ก็เป้นตัวเลือกนึงที่โอเคอยู่นะฮะ แถมมาด้วยความแหวกๆแปลกๆนิดๆ ดีเทลเล็กๆให้เจ้าของได้ชื่นใจหน่อยๆ เป็นรองเท้าที่ง่ายๆชิลๆดีฮะ
ราคา 3,990 ถือว่าสมเหตุสมผลนะ มีตั้งแต่ไซส์ 4us ไล้ไปจนถึง 12us เลย ใครสนใจไปหาดูได้ที่ร้าน Bratpack Thailand SEEK Thailand และ Upperground by Carnival นะฮะ
สุดท้ายเหมือนเดิม ใครไปสอยมาแล้วมาอวดกันด้วยนะะ
Related articles:
-
Under Armour Architech Reach
จนแล้วจนรอด ปีนี้เราก็ยังไม่ได้เห็นรองเท้า 3D Print ออกมาวางขายอย่างทั่วถึงจริงๆ ส่วนตัวเรายังคิดว่าเทคโนโลยีนี้ยังมีหลายปัจจัยที่ยังขวางไว้อยู่ ทำให้โปรเจคแบบนั้นจะเน้น “การทดลอง” ซะส่วนใหญ่ ทดลองเพื่อให้รู้จักการรับแรงกระแทก, ให้รู้ว่ารองเท้าที่เปลี่ยนโครงสร้างไปเลยจะมีผลยังไงบ้างกับคนใส่ หรือทดลองทำรองเท้าที่เหมาะกับคนคนนั้นเท่านั้น ปรับจูนรายละเอียดต่างๆ เพื่อให้ได้ผลออกมาแล้วนำไปต่อยอดสู่เทคโนโลยีอื่นๆที่นอกเหนือจาก 3D Print ด้วย และคราวนี้เราเอาผลจากการทดลองนั้นมาให้ดูฮะกับรองเท้าที่อยู่ในโปรเจค Architech เป็นกลุ่มนวัตกรรมของ…
-
The Most HYPED Running Shoes of 2017 : Altra Escalante
Altra Escalante เป็นรองเท้าวิ่งโมเดลใหม่ที่เปิดตัวได้เปรี้ยงที่สุดของปี 2017 เพราะนอกจากจะเป็นแบรนด์ที่ยังถือว่าอยู่ในกลุ่มดาวรุ่ง แต่กระโดดเข้ามาใช้ผ้าถักแบบ Knit ได้เร็วมากอย่างไม่น่าจะมีใครคิดว่าแบรนด์ลุยๆดิบๆขนาดนี้จะขอกระโดดเข้ามาร่วมวงเทคโนโลยีแห่งยุคแบบนี้ด้วย กระแสถัดมาคือการได้รางวัล Editor’s Choice จาก Runner’s World ในช่วงกลางปี ยิ่งทำเอาหลายๆคนที่ยังไม่เคยลอง คันไม้คันมือกันเป็นแถวๆ หนึ่งในนั้นก็รวมถึงเราด้วยนั่นแหละ ไม่คิดว่าสาย Zero…
-
Puma TSUGI Shinsei
เกิดใหม่-อีกครั้ง เป็นการตั้งชื่อรองเท้ารุ่นใหม่ล่าสุดของแบรนด์ประวัติยาวนานอย่าง PUMA ให้เข้าใจว่า”ใหม่”จริงๆ TSUGI SHINSEI มาจากภาษาญี่ปุ่นสองคำคือ Tsugi แปลว่า ต่อไป(Next) และ Shinsei แปลว่า เกิดใหม่(Rebirth) เป็นการเปิดตัวที่สื่อความหมายชัดเจนในการกลับมาสู่ตลาดเทรนด์ใหม่ในปัจจุบัน ทีมดีไซน์ของ Puma จากเยอรมันที่ชอบเดินทางกันเป็นทุนเดิม แถมยังบอกว่าในหลายๆประเทศที่เค้าไปกัน ประเทศญี่ปุ่นมักจะเป็นที่ๆเค้าได้ไอเดียที่ชอบมาเสมอๆ…
