Under Armour Architech Reach
จนแล้วจนรอด ปีนี้เราก็ยังไม่ได้เห็นรองเท้า 3D Print ออกมาวางขายอย่างทั่วถึงจริงๆ ส่วนตัวเรายังคิดว่าเทคโนโลยีนี้ยังมีหลายปัจจัยที่ยังขวางไว้อยู่ ทำให้โปรเจคแบบนั้นจะเน้น “การทดลอง” ซะส่วนใหญ่ ทดลองเพื่อให้รู้จักการรับแรงกระแทก, ให้รู้ว่ารองเท้าที่เปลี่ยนโครงสร้างไปเลยจะมีผลยังไงบ้างกับคนใส่ หรือทดลองทำรองเท้าที่เหมาะกับคนคนนั้นเท่านั้น ปรับจูนรายละเอียดต่างๆ เพื่อให้ได้ผลออกมาแล้วนำไปต่อยอดสู่เทคโนโลยีอื่นๆที่นอกเหนือจาก 3D Print ด้วย
และคราวนี้เราเอาผลจากการทดลองนั้นมาให้ดูฮะกับรองเท้าที่อยู่ในโปรเจค Architech เป็นกลุ่มนวัตกรรมของ UA ที่เคยออกรองเท้า 3D Print มาแล้ว 2-3 ครั้งด้วยนะ คู่นี้ยังไม่ใช่ 3D Print แต่เอามาให้ดูว่าสุดท้าย UA ผลิตอะไรออกมาให้เราได้ใช้กันบ้าง
รองเท้าคู่นี้เป็นรองเท้าเทรนนิ่ง เห็นได้ชัดเจนมากๆจากพื้นด้านหลังฮะ ที่ส้นเท้าจะบานออก เอาไว้ใช้เวลายกเวท จะช่วยให้เราปักขาได้นิ่ง ไม่ล้มเพราะน้ำหนักเวทฮะ รองเท้าแบบนี้มักจะมีพื้นที่แข็งมาก ไม่ปล่อยให้บิดตัวได้ง่ายเพราะเน้นความมั่นคง
ข้างในบุด้วยผ้า Neoprene นิ่มๆฮะ เราลองใส่โดยไม่ใส่ถุงเท้า ใส่สบายมากๆ นิ่มดี ตรงนี้เผื่อใครชอบใส่ถุงเท้าสั้น ผ้าจะไม่กัดเท้าง่ายๆฮะ ขอเท้าแบบนี้ที่เรียกว่า Booty ค่อนข้างฮิตในสมัยนี้จะติดอยู่อย่างนึงตรงที่ข้างในอาจจะร้อนนิดนึง ใครที่เหงื่อออกง่ายตรงนี้เก็บเอาไว้เป็นปัจจัยด้วยนะฮะ
เป็นรองเท้าที่มีเลเยอร์เยอะดี ที่สมัยนี้หายากเพราะหลายๆรุ่นเริ่มทำหน้าผ้าเป็นชิ้นเดียวทั้งผืนโดยเฉพาะเมื่อเป็นวัสดุแบบ Knitting ข้อดีของการทำแบบนี้คือการสร้างซัพพอร์ทในแต่ละจุดของเท้าได้อย่าง “แม่น” มากขึ้น เปิดแถบรัดออกมาเจอด้านในเป็นรูร้อยเชือกแบบขนานกัน ผู้เชือกให้แน่นก่อนแล้วค่อยรัดแถบนี้ทับอีกที
แถมด้วยแถบไนล่อนที่หน้าเท้าอยู่อีกสองคู่ เห็นเลยว่าคู่นี้เน้นเรื่อง Fitting ให้กระชับได้มากที่สุด ซึ่งพอใส่แล้วก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ ถึงข้อเท้าจะเป็นผ้าชิลๆอย่าง Neoprene แต่พอใส่เข้าไปแล้วรู้สึกว่าเท้าโดนล็อคไว้ด้านในได้แน่นหนามาก ไม่หลุดง่ายๆ
ดูพื้นรองเท้ากันดีกว่า ตรงนี้มีโฟม EVA ออกแนวเด้งนิดๆฮะ ล้อมรอบส้นเท้าด้วยพลาสติก TPU แข็งๆ เน้นเรื่องความมั่นคงอีกแล้ว พื้นด้านล่างจะแบ่งเป็นโซนฮะ ส่วนที่เป็นผิวด้าน จะเป็นยางแข็งๆ ใช้ทั้งเกาะพื้นและเป็นเหมือนแผ่นดามเท้าไม่ให้บิดไปในตัว ส่วนที่เป็นผิวมันๆคือ EVA ที่โชว์ออกมาทั้งอย่างนั้นเลย
มีด้านหลังนิดนึงตรงนี้เป็นดีไซน์ล้อกันดีกับลายพื้นฮะ เป็นกรอบพลาสติก TPU ช่วยรับข้อเท้าอีกแรง
ความรู้สึกตอนใส่ใช่ได้ฮะ เรายังไม่ได้เอาไปใช้เลยนะ ลองใส่เดินๆเฉยๆ พื้นนิ่มและเด้งตามระเบียบ สิ่งที่เด่นที่สุดของรองเท้าคู่นี้น่าจะเป็นเรื่องหน้าตาที่ดีมากๆกับความกระชับของเลเยอร์บนหน้าผ้า
แต่เรายังไม่หายสงสัยว่าสิ่งที่ 3D Print ส่งต่อมาให้กับคู่นี้มันสร้างความแตกต่างให้กับรองเท้ายังไงได้บ้าง อันนี้คงต้องเอาไปลองจริงๆก่อนถึงจะบอกได้ ยังไงก็ตาม เรายังรอทิศทางของปีหน้า หวังว่า 3D Printing Technology จะเริ่มเป็นรูปเป็นร่างและกระขายมาถึงผู้บริโภคมากขึ้นเรื่อยๆฮะ
ขอบคุณ Under Armour Thailand ที่ส่งคู่นี้มาให้เราได้ศึกษากัน เป้นเหมือนหลักกิโลเมตรที่ต้องจดไว้ก่อนล่ะฮะ ต้องดูกันไปยาวๆว่าจะมีเทคโนโลยีอะไรออกมาจาก UA อีกบ้างเพราะแบรนด์นี้ค่อนข้างเน้นเรื่องนี้มาโดยตลอดฮะ