NB 247 : The New Chapter of New Balance
NB 247
เมื่อเดือนที่ผ่านมา รุ่นนี้ค่อนข้างมีปรากฎตัวให้เห็นในสื่อต่างๆมากมายโดยเฉพาะในเว็ปไซต์รองเท้าระดับโลก หรือว่าจะเป็นรีวิวใน Youtube ของฝรั่งก็ตาม เราว่านี่คือการขีดเส้นสตาร์ทครั้งใหม่ของ New Balance ในตลาดรองเท้ายุค Digital
บอกเลยว่ารองเท้าคู่นี้ไม่อยากเห็นก็ต้องเห็น เพราะมีการปล่อยภาพออกสื่อไปค่อนข้างเยอะพอสมควร ส่งไปขายในร้านที่ค่อนข้างมีความพิเศษเช่น New Balance สาขา Central Embassy ไม่ก็จะเปิดให้พรีออร์เดอร์เท่านั้น เราเลยถือโอกาสไปลองจับตัวจริงดูซักหน่อย
ความประทับใจแรกของรุ่นนี้คือมันกลางๆมาก น้ำหนักเบา วัสดุไม่หวือหวาแต่ก็ไม่มีอะไรแย่ อยู่ในเกณฑ์ที่โอเค ใช้ทั้งผ้าตาข่ายและพลาสติกหรือพวกวัสดุคล้ายๆหนังสังเคราะห์ พื้น RevLite ที่ไม่น่าห่วงทั้งความเบาและความนิ่มนิดๆเด้งหน่อยๆ ส่วนผสมออกมาเป็นรองเท้าผ้าใบที่ “ตอบโจทย์” ของการอยากจะได้รองเท้าที่ใส่ประจำวัน ง่ายๆได้ซักคู่หนึ่ง แถมออกราคามาอย่างน่าสนใจนั่นคือ 3พันกลางๆเท่านั้นที่ถือว่าไม่แพงเลยในยุคนี้
ดีไซน์ได้ออกมาไม่ได้โลดโผนล้ำอนาคตเกินไป แต่เป็นการคำนึงถึง Function เป็นหลัก นึกถึงการใช้งานจริง และไม่ได้ใส่อะไรเข้าไปจนล้น มีเงาของความเป็น New Balance อยู่ชัดเจนแต่ทำให้ Slim และ Sleek มากขึ้นอีกนิด ออกมาหน้าตาดูดีขึ้น เข้ากับยุคสมัยได้ดีเลย
แต่ความน่าสนใจที่เราจะพูดถึง อาจจะไม่ใช่แค่ตัวรองเท้า แต่เป็นการ “วางตัว” แบบใหม่ของแบรนด์เดิมในตลาดเดิมที่เปลี่ยนเข้าสู่ยุคใหม่
เข้าเรื่องเร็วๆเลยละกัน ก่อนหน้านี้ hilight ของแบรนด์นี้ในเมืองไทยต้องยอมรับว่าเป็นรุ่น Classic Collection พวกที่ made in US หรือ UK ราคาแรงระดับ 8-9,000 บาทที่มาพร้อมกับคุณภาพคับแน่นแถมเข้ามาขายแบบจัดเต็มหลายสีหลายวัสดุมากๆ แต่ในปีที่ผ่านมา New Balance ได้มีพรีเซนเตอร์หลักอย่างคุณ นาย ณภัทร หนุ่มฮอทมากที่สุดคนนึงในช่วงนี้ โดยไม่ได้เป็นเพียงแค่ lifestyle พรีเซนเตอร์แต่ล่าสุดมีการถ่ายแบบอยู่ในไลน์ของรองเท้าวิ่งเรือธงอย่าง Vazee Pace V2 ด้วย
การทำ PR ในยุคนี้ ที่ขาดไม่ได้คือการดึง Influencer ในสาขาต่างๆเข้ามาให้ช่วยโปรโมทสินค้า แบรนด์รองเท้ากีฬานอกจากจะใช้นักกีฬามาช่วยแล้ว ก็จะต้องใช้ lifestyle model เข้ามาช่วยด้วย เป็นบุคคลที่ไม่ใช่นักกีฬาอาชีพ แต่มี lifestyle ที่ดูดีและเข้ากับ”สิ่งที่แบรนด์อยากสื่อออกไป” อย่างบ้านเราจะเห็นชัดว่า Nike เน้นศิลปินนักร้องมากๆอย่างพี่ตูน Body Slam หรือ ปั๊ป Potato ส่วน Adidas มักจะเน้นผู้หญิงที่ Lifestyle ออกแนวสปอร์ตอย่างน้อง Mad จาก CU.Fitgirl หรือคุณโย ยศวดี มาเป็นตัวแทน
หลักการง่ายๆก็คือจะให้บุคคลเหล่านี้ใช้สินค้าจากแบรนด์นั้นๆ เพื่อให้แฟนๆของคนเหล่านี้เห็น เข้าใจ และเริ่มคิดตามว่าชอบเหมือนกันรึเปล่า การทำแบบนี้ในสมัยก่อนมันเหมือนการ”จ้าง”ให้ทำ แต่ในยุคนี้ที่เราเห็นแล้วเราว่าแต่ละแบรนด์เลือกกันมาดีพอสมควร แต่ละคนที่ถูกเลือกมีคาแรคเตอร์เข้ากับรองเท้าประเภทนั้นๆนั้นอยู่มากๆเลย มันจึงไม่ใช่การบังคับหรือยัดเยียดให้ทำอีกต่อไป แต่เป็นการส่งเสริมและสนับสนุนกันทั้งสองฝ่ายมากกว่า
กลับมาที่ New Balance มาดูกันว่าแบรนด์นี้เค้าทำยังไง
NB ไม่ได้เน้นการจับ influencer ให้ตรงกับสาย แฟชั่น กีฬา หรือ sneaker โดยตรง แต่เน้นไปที่ดาราที่ขอใช้คำว่า “mass” แบบเต็มๆนั่นคือเหล่าดาราละครทั้งหลาย เกรท วรินทร, ดีเจพีเค หรือ เอส กันตพงศ์ นับว่าเป็นการเดินหมากที่แปลกสำหรับแบรนด์รองเท้าในไทย แต่สำหรับสินค้าประเภทอื่นๆถือว่าเป็นวิธีฮิตมากและใช้กันมานานแล้ว
บุคคลที่กล่าวมาทั้ง 3 ท่านนั้น(รวมคุณ นาย ณภัทรอีกเป็น 4 ท่าน) บอกได้คร่าวๆเลยว่า New Balance ต้องการเล็งเป้าไปสู่ตลาดระดับกลาง-ล่างของจริง แฟนละครช่องต่างๆคงไม่ใช่ target เดียวกับคนที่หายใจเข้าออกเป็นรองเท้าผ้าใบทั้งหมด แต่แฟนๆของดาราละครมักจะมีพฤติกรรมการ “ซื้อตาม” ที่ง่ายกว่าและคล้อยตามได้ไวกว่าด้วย ในจุดนี้เราคิดว่าแบรนด์คงยังไม่ได้พุ่งเป้าไปที่การสร้างภาพลักษณ์ที่ดูล้ำเพื่อสู้กับแบรนด์ตัวท็อปอย่าง Adidas หรือ Nike แต่เน้นการกระจายเสียงออกไปสู่ “ตลาด” ให้กว้างที่สุดเท่าที่จะทำได้เพื่อให้คนหมู่มากเข้าใจได้เร็วที่สุดตั้งแต่กลุ่มคนระดับเจ้าของธุรกิจไปจนถึงกลุ่มลูกจ้างทั่วไป
บุคคลกลุ่มแบบนี้จริงๆแล้วแบรนด์อื่นก็มีเช่นกันอย่าง Nike ก็จะเป็นดีเจพุฒ และ Adidas ก็จะเป็นชมพู่ อารายา ที่มีฐานแฟนคลับที่ไม่ได้เน้นรองเท้าเป็นหลักแต่พร้อมที่จะเปิดใจเชื่อและคล้อยตาม แต่ทั้งสองแบรนด์นี้มักจะเข้าถึงบุคคลในสายอื่นๆด้วยอย่างนักร้องหรือนักกีฬาที่กล่าวไว้แล้วก่อนหน้านี้ แต่ NB เลือกที่จะเน้นกลุ่มคนประเภทเดียวเท่านั้น ณ ตอนนี้เราคงไม่ได้เห็นความเท่ห์ ความน่าหลงใหล หรือเรื่องราวที่น่าสนใจในแบบที่วงการคนชอบ sneaker อินกัน แต่คงเป็นความเข้าถึงง่ายและไม่เน้นความซับซ้อน เน้นว่าเป็น “another nice shoe” ที่ไม่ต้องคิดเยอะเลยสักนิด ถ้าให้คิดภาพว่าหากมีอีเว้นท์เปิดตัวรองเท้ารุ่นนี้ในเมืองไทย คงไม่ใช่ภาพที่เต็มไปด้วย influencer สายแฟชั่นหรือ sneaker มารวมตัวกันหลายๆคน แต่เป็นภาพแฟนคลับดารามาพร้อมกับป้ายไฟ หรือเด็กนักเรียนที่ชื่นชอบดาราเกาหลี อารมณ์ประมาณนั้น เป็นฉากใหม่ของวงการรองเท้าผ้าใบในเมืองไทยที่แปลกดีเหมือนกัน
รองเท้าที่ Kanye ใส่กับรองเท้า Britney Spears ใส่มันก็คงได้อารมณ์คนละเรื่องกันเลย แต่นั่นก็คือสิ่งแบรนด์ “ต้องการจะสื่อออกไป” และเราก็คงต้องเลือกเอาเองว่าชอบแบบไหน เราคิดว่าสุดท้าย New Balance 247 ก็คงจะสร้างกระแสได้เป็นระยะด้วยคุณภาพของตัวรองเท้าจริงๆ แต่คงไม่ใช่รองเท้าที่จะสามารถมาแข่งกับ Adidas NMD หรือ Nike Air Max ได้แน่ๆ แต่ก็ดีตรงที่เรามีตัวเลือกใหม่กันในตลาด ใครที่ต้องการของที่ชอบดีไซน์จริงๆ ไม่อิงกระแส ก็พอจะหลบจากรองเท้ากระแสแรงเหล่านั้นมาซบ 247 ได้ไม่ยากเลยฮะ นับเป็นทิศทางใหม่ของ New Balance ในเมืองไทยที่น่าติดตามพอสมควรเลย